วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ทําไมประเทศญี่ปุ่นถึงเกิดเหตุแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง?

การเกิดแผ่นดินไหว เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะว่าเรานั้นอาศัยอยู่บนแผนเปลือกโลกที่สามารถเคลื่อนตัวได้ตลอดเวลา ดังนั้นการเกิดแผ่นดินไหวก็สามารถที่จะเกิดได้ตลอดเวลาด้วยเช่นเดียวกัน แผ่นเปลือกโลกสามารถขยับได้ทุกเมื่อ ขยับแรงมากหรือไม่นั้นก็อยู่ที่ตัวเราเองจะสามารถรู้สึกได้ ซึ่งเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ แม้กระทั่งในประเทศไทยเราก็เกิดขึ้นมาแล้ว แต่อาจจะไม่รุนแรงเท่ากับประเทศหนึ่งคือ “ประเทศญี่ปุ่น”
ทําไมประเทศญี่ปุ่นถึงเกิดเหตุแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง
ประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวได้บ่อยมาก ซึ่งกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับที่นั่นไปแล้ว เกิดได้ทั้งการสั่นไหวแบบเบาๆ และข่าวล่าสุดที่มีแผ่นดินไหวจนเกิดสึนามิที่ญี่ปุ่น ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง นอกจากนั้นก็ยังมีการสั่นสะเทือนตามมาอีกหลายต่อหลายครั้ง ที่ญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวได้แทบทุกวัน บางครั้งก็มีการสั่นไหวแบบที่สามารถรู้สึกได้แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก
– ภูมิประเทศของประเทศญี่ปุ่นนั้นอาศัยอยู่บนพื้นที่ที่มีการเกิดภูเขาไฟระเบิดได้บ่อยครั้ง ทำให้เกิดการสั่นไหวและเกิดการสั่นสะเทือนได้อย่างรุนแรง จึงมีการเกิดแผ่นดินไหวได้มากครั้งที่สุด
– ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกมากกว่าประเทศอื่น ซึ่งประเทศญี่ปุ่นนั้นก็มีรอยเลื่อนหรือรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกอยู่มาก เพราะมีแผ่นเปลือกโลกที่ต่อกันอยู่ 4 แผ่น รอยต่อของแผ่นเปลือกโลกนั้นสามารถขยับได้อยู่ตลอดเวลา นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมที่ประเทศญี่ปุ่นถึงได้มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวบ่อยนัก
รอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่ญี่ปุ่น สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และยิ่งมีมากโอกาสจะเกิดก็บ่อยขึ้น เราจึงจะได้ทราบข่าวกันบ่อยๆ ว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นมีแผ่นดินไหวบ่อย ความรุนแรงก็มีทุกระดับที่เกิดขึ้น ที่ประเทศญี่ปุ่นจึงมีการป้องกันตัวเองและหนทางปฏิบัติตัวเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาตินี้อยู่ตลอดเวลา จนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว มีการรักษาความปลอดภัย และคนในบ้านเมืองต่างก็รู้จักวิธีการที่จะทำให้ตัวเองนั้นปลอดภัยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว แต่ถ้ารุนแรงอย่างคราวที่เกิดสึนามิที่คร่าชีวิตผู้คนอย่างมากมายก็ยากนักที่จะรับมือกับภัยพิบัติที่ธรรมชาติสร้างขึ้นได้
ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตามที่เกิดแผ่นดินไหว ไม่ควรจะอยู่ในที่สูง ควรหาที่หลบที่ปลอดภัยมากที่สุด และตั้งสติให้ได้มากที่สุด ซึ่งแทบทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม จะมีการเตือนภัยเมื่อเกิดภัยพิบัติเกิดขึ้น ไม่ว่าภัยธรรมชาติจะรุนแรงและลงโทษมนุษย์อย่างเรามากเพียงใด เชื่อว่าเมื่อพ้นเหตุการณ์ร้ายๆ นี้ไปแล้ว มนุษย์เราทุกคนพร้อมที่จะให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือกับทุกอย่างที่พังทลาย และไว้อาลัยกับทุกชีวิตที่เสียไป

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สงสัยไหม? ทำไมถึงเรียกว่าส้มตำ ประวัติของส้มตำมีความเป็นมาอย่างไร


หลายคนคงกำลังสงสัยว่า “ส้มตำ” อาหารประจำชาติของประเทศไทย ทำไมถึงเรียกว่าส้มตำกันนะ ทั้งๆที่วัตถุดิบก็คือนำมะละกอมาตำ เอ๊ะ หรือว่า..คนคิดเมนูคนแรกชื่อส้ม วันนี้เรามีเกร็ดความรู้มาไขข้อข้องใจให้เพื่อนๆกันค่ะ
ทำไมถึงเรียกว่าส้มตำ มีที่มาอย่างไร
อันที่จริงไม่ใช่ชื่อของคนทำหรืออะไรหรอกค่ะ ที่ชื่อส้มตำก็เพราะเป็นการนำคำสองคำมาผสมกันนั่นเอง ก่อนอื่นต้องแยกคำก่อนนะคะ
คำแรก “ส้ม” มาจากภาษาท้องถิ่น ที่หมายความว่า รสเปรี้ยว
ส่วนคำที่สองคือ “ตำ” หมายความว่า การใช้สากหรือสิ่งของอื่นที่คล้ายคลึงทิ่มลงไปอย่างแรงเรื่อยๆ
เมื่อจับทั้งสองคำมารวมร่างกันก็จะได้ความหมายคือ อาหารรสเปรี้ยวที่ทำโดยการตำ นั่นเองค่ะ
นอกจากนี้ ส้มตำยังมีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นอีกหลายชื่อ เช่น ตำบักหุ่ง, ตำมะละกอ
ส้มตำ เป็นการปรุงอาหารโดยมีส่วนประกอบหลักคือการขูดมะละกอออกเป็นเส้นๆใส่ลงไปในครก พร้อมกับใส่วัตถุดิบต่างๆ เช่น ถั่วฝักยาว กระเทียม มะเขือเทศลูกเล็ก มะเขือเปราะ มะเขือสีดา พริกสด พริกแห้ง เสร็จแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลปี๊บ เติมน้ำปลา มะนาว ตามความชอบ
ส่วนประกอบต่างๆเหล่านี้ทำให้ส้มตำมีรสที่เป็นเอกลักษณ์ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด แซ่บนัวถูกใจใครหลายๆคน สำหรับคนไทยในภาคอีสานนิยมกินส้มตำรสเค็มเผ็ด และคนไทยในภาคกลางนิยมกินรสเปรี้ยวหวาน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงที่มักมาคู่กันจนแทบขาดกันไม่ได้อย่าง ปลาดุกย่าง ไก่ย่าง แคบหมู ขนมจีน เส้นหมี่ และผักสด เช่น ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักดอง ถั่วงอก ใบชะพลู เป็นต้น ร้านส้มตำมักขายอาหารอีสานอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น ต้มแซ่บ ลาบ น้ำตก ซกเล็ก ก้อย แจ่ว ตับหวาน ไก่ย่าง คอหมูย่าง พวงนม กุ้งเต้น ข้าวเหนียว
ประวัติของส้มตำ
ประวัติส้มตำ
เดิมทีมะละกอเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอเมริกากลาง ต่อมายุคต้นกรุงศรีอยุธยา ชาวโปรตุเกสและสเปนได้นำมาเพาะปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงเวลาใกล้ๆกันชาวฮอลันดาก็ได้นำพริกเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยในเวลาต่อมา
ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทูตชาวฝรั่งเศส นีกอลา แฌร์แวซ (Nicolas Gervaise) และ ซีมง เดอ ลา ลูแบร์ ได้มาเยือนกรุงศรีอยุธยา และกล่าวในเวลานั้นไว้ว่า มะละกอได้กลายมาเป็นพืชพื้นเมืองชนิดหนึ่งของสยามไปแล้ว และยังได้กล่าวถึง มะนาว มะม่วง กระเทียม ปลาร้า ปลากรอบ กุ้งแห้ง กล้วย น้ำตาล พริกไทย แตงกวา ถั่วชนิดต่าง ๆ ที่ล้วนนำมาเป็นส่วนประกอบสำหรับปรุงส้มตำได้
ในภาษาลาวเรียกส้มตำว่า ตำบักหุ่ง หรือ ตำหมากหุ่ง (หมากหุ่งหมายถึงมะละกอ) ในบางครั้งเรียกว่า ตำส้ม คำว่า ส้ม ในภาษาไทยแปลว่า เปรี้ยว คำว่า ส้มตำ จึงเป็นคำในภาษาไทยที่ถูกนำมาเรียกโดยคนลาว เครื่องปรุงทั่วไปของส้มตำลาวจะคล้ายคลึงกับส้มตำไทย ประกอบไปด้วยมะละกอสับเป็นเส้น ผงนัว (ผงชูรส) หมากเผ็ด (พริก) เกลือ กระเทียม น้ำปลา น้ำตาล น้ำปลาแดก (น้ำปลาร้า) หมากถั่ว (ถั่วฝักยาว) หมากนาว (มะนาว) และอื่น ๆ ในบางพื้นที่นิยมใช้กะปิแทนปลาแดกและใส่เม็ดกระถินด้วย นอกจากนี้บางพื้นที่มีการใส่ปูดิบและน้ำปูลงไปด้วย

พฤติกรรมต่างๆบอกอารมณ์ของกระต่าย

พฤติกรรมต่างๆบอกอารมณ์ของกระต่าย

พฤติกรรมต่างๆของกระต่าย
พฤติกรรมต่างๆของกระต่าย

กระต่ายเป็นสัตว์ที่ออกหากินในเวลาเช้าตรู่และช่วงพลบค่ำ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็นลูกรักของเราคึกคักตลอดตั้งแต่หัวค่ำจนเวลากลางคืนนะคะ ซึ่งก็เหมาะกับคนทำงานกลับมาลูกๆตื่นตัวพร้อมเล่นกับเราพอดีเลยค่ะ ^^ ส่วนเรื่องการฝึก นิสัยของกระต่ายแต่ละตัวก็ต่างกันออกไป บางตัวก็ฝึกได้ บางตัวฝึกเท่าไหร่ก็ไม่จำ ก็ต้องทำใจนะคะ
มาดูพฤติกรรมต่างๆของกระต่ายว่าแสดงออกถึงอะไร และต้องการอะไรกันนะคะ

การกินมูลตัวเอง(Coprophagy)
หากเห็นกระต่ายของเรากินมูลตัวเองไม่ต้องตกใจนะคะ ควรปล่อยให้เค๊ากินไป ถึงแม้เราจะรู้สึกตะหงิดๆใจก็ตาม เพราะการกินมูลตัวเองของกระต่ายจะเป็นการปรับลำไส้ของเค๊าให้เป็นปรกติ กระต่ายจะมีการถ่ายมูลพวงองุ่นที่อ่อนนุ่มนี้ในยามเช้าตรู่แล้วกินมันกลับเข้าไปใหม่การกระทำนี้เรียกว่า Coproghagy นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองว่าการที่กระต่ายกินมูลพวงองุ่นนี้เข้าไปจะทำให้ลำไส้ของเค๊าเป็นปรกติ แบคทีเรียในลำไส้ของกระต่ายจะผลิตวิตามินบีและโปรตีนฉะนั้น ในมูลพวงองุ่นก็จะมีทั้งวิตามินบี โปรตีน และแบคทีเรียที่ดี เมื่อกระต่ายกินมูลกลับเข้าไป ก็จะได้รับสารอาหารและแบคทีเรียที่ดีก็จะกลับเข้าสู่ร่างกายอีกครั้งค่ะ ^ ^

การสื่อสาร
โดยปรกติเราจะไม่ค่อยได้ยินเสียงกระต่ายนะคะ ยกเว้นเวลาเค๊าตกใจ กลัวอะไรก็จะมีการร้องออกมา กระต่ายบางตัวเวลาเราไปจับเค๊าก็จะมีเสียงร้องเล็กๆในลำคอ อาจจะเป็นเพราะเค๊ากลัวหรือไม่อยากให้เราไปยุ่งกับเค๊าค่ะ กระต่ายแต่ละตัวนิสัยก็ต่างกันไปนะคะ บางตัวก็บ่นได้ตลอดๆ ชอบก็ส่งเสียง หิว ไม่พอใจ ส่งเสียงตลอด บางตัวก็เงียบกริบก็มีค่ะ กระต่ายที่ฟาร์มเราบางตัวเวลาอยากผสมพันธ์ก็ส่งเสียง แถมพอเสร็จภารกิจ ส่งเสียงดังลั่นเลยก็มีค่ะ ออกแนวลามกนิดๆนะเนี่ย

ภาษาร่างกาย
เราลองสังเกตดีดี ภาษาร่างกายก็บอกอะไรเราได้หลายอย่างนะคะ
เรียกร้องความสนใจ – เอาจมูกมาดุน มาดันๆเรา ,สะกิดๆเราด้วยเท้าหน้าของเค๊า ,งับคุณเบาๆ ก็เป็นอาการเรียกร้องความสนใจของเค๊าได้เช่นกันค่ะ
อารมดี มีความสุข – ส่งเสียง กระโดดโลดเต้น, นอนแผ่อย่างมีความสุข หูลู่ไปด้านหลัง เดินวนรอบตัวคุณ
อยากรู้อยากเห็น – หูลู่ไปด้านหน้า ,โน้มตัวไปด้านหน้าเหมือนสนใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นนะ ,ยืนๆดูอยากเห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ป้องกันตัวเอง จู่โจม – อันนี้สังเกตดีดีนะคะ พลาดขึ้นมาอาจจะเจ็บตัวได้ อาการหูลู่ไปด้านหลัง ยกหางขึ้น บางตัวมีสงเสียงขู่ด้วย บางตัวทำท่าเหมือนสนใจเรายืนสองขาน่ารัก พอยื่นมือเข้าไปลูบก็ ฟับ งับเราซะอย่างงั้น -*-

การกัดแทะสิ่งของ
เป็นปัญหาที่ต้องเข้าใจและดูแลดีดีนะคะ เพราะกระต่ายน้อยเป็นสัตว์ฟันแทะ เค๊าต้องการแทะเพื่อลับฟัน ไม่ให้ฟันงอกยาวจนเกินไป หากฟันของเค๊ายาวอาจจะเกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้อีกมากมายเลยนะคะ เราควรหากิ่งไม้ ท่อนไม้เล็กๆแห้งๆแข็งๆ หรือไม้แทะแบบสำเร็จรูป ทิ้งไว้ให้เค๊าแทะเล่นค่ะ แต่ก็ต้องดูว่าไม้นั้นๆต้องไม่เป็นอันตรายกับเค๊านะคะ และที่ควรระวังคือ สายไฟ พลาสติกต่างๆ และวัสดุที่ไม่ควรให้ตกถึงท้องเค๊าค่ะ

การขุด
ในธรรมชาติกระต่ายต้องขุดดินเพื่อสร้างโพรง ทำรัง ไว้เลี้ยงลูก อยู่อาศัยและหลบจากศัตรู ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่กระต่ายของเราจะชอบการขุดมาก ยิ่งในกระต่ายเด็ก ทั้งขุดทั้งมุดจนตัวมอมแมมไปหมด เราสามารถหาสถานที่ หาอะไรให้กระต่ายของเราได้ขุดเล่นเพื่อเป็นการลับเล็บได้อีกด้วยนะคะ นอกจากนี้การขุดยังเป็นการบอกว่าแม่กระต่ายของเรากำลังต้องการทำรังคลอดลูกแล้วล่ะค่ะ เราก็จัดเตรียมรังคลอดให้เค๊าได้เลยค่ะ

การนอน
บางทีเราอาจจะสงสัยว่ากระต่ายของเรานอนบ้างไม๊ ทำไมไม่เห็นหลับตา นั่นก็เพราะว่าโดยสัญชาติญาณของเค๊าซึ่งเป็นผู้ถูกล่าจะมีการระวังตัวสูงค่ะการหลับของเค๊าจึงไม่จำเป็นต้องหลับตาค่ะ แต่ในกรณีที่กระต่ายสบายใจมากเสียเหลือเกิน เราอาจจะเห็นพฤติกรรมการนอนที่สุดจะน่ารักได้หลายรูปแบบเลยค่ะ บางตัวนอนแผ่เป็นไก่ย่าง บางตัวหลับหัวทิ่มคาถ้วยอาหาร บางตัวมีนอนละเมออีกต่างหาก รู้สึกเหมือนจะสูญเสียสัญชาติญาณการเป็นผู้ถูกล่ากลายมาเป็นเจ้าบ้านที่แสนจะสบายใจไปซะแล้วนะคะ

การเคาะเท้า
กระต่ายจะเคาะเท้าเป็นการเตือนภัย อาจจะเคาะหรือกระโดดขึ้นลงเพื่อให้เกิดเสียง เราจะเห็นการเคาะเท้าได้ตอนที่เค๊าเครียดและตื่นกลัว เช่นมีสัตว์อื่นเข้ามาใกล้บริเวณที่เค๊าอยู่หรือไม่  หรือไม่คุ้นเคยเวลามีคนจะเข้าไปอุ้มค่ะ

การแสดงอาณาเขต
ในกระต่ายตัวผู้จะมีการแสดงอาณาเขตด้วยการเอาคางถูไปยังที่ต่างๆในบ้านและกรงของมัน บางครั้งเราก็เห็นตัวเมียทำแบบนี้เช่นกัน นี่เป็นการแสดงอาณาเขตของกระต่าย กระต่ายตัวอื่นที่ผ่านเข้ามาจะรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นอาณาเขตของกระต่ายตัวอื่นค่ะ

การแสดงอำนาจ
การแสดงอำนาจที่มากเกินไปอาจจะทำให้กระต่ายของเราก้าวร้าวได้ กระต่ายแสดงอำนาจโดยการฉี่ไปทั่ว และฉี่ไปที่กรงของกระต่ายตัวอื่นๆ อีกวิธีที่จะแสดงอำนาจก็คือการงับ เป็นได้ทั้งงับกระต่ายตัวอื่นๆ หรืออาจจะลามมาถึงมางับเรา หากกระต่ายตัวไหนเริ่มมีการแสดงอำนาจมากเกินไป เราต้องจัดการแก้ปัญหานี้ก่อนที่จะกลายเป็นกระต่ายแสนโหดนะคะ

ความก้าวร้าว
เป็นเรื่องที่ผู้เลี้ยงไม่อยากเจอเลย การก้าวร้าวเกิดได้จากหลายอย่างค่ะ ทั้งจากความเครียด ความกลัว อาการไม่ได้ดังใจ ในกรณีที่โดนเลี้ยงตามใจมากเกินไป อาการแสดงอำนาจ และบางตัวถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ก็มีค่ะ เรียกได้ว่าดุกันทั้งครอบครัว -*-  แต่เราก็สามารถค่อยๆปรับค่อยๆฝึกให้เค๊าเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่องได้นะคะ แต่ต้องใจเย็นๆค่ะ จะทำอะไรในเวลาที่เค๊ากำลังก้าวร้าวคงยาก เพราะเค๊าเป็นสัตว์ที่กัดเจ็บ และถีบรุนแรงมาก ได้แผลได้เลือดกันเลยทีเดียวค่ะ

ข้อมูล จากแหล่งความรู้ที่ต่างๆ และจากประสบการณ์ตรงในการเลี้ยงดูจาก Country Rabbit Farm
[ขอบคุณข้อมูลจาก : นานาสาระ กระต่ายและเควี่ (Rabbit and Cavy Care) > พฤติกรรมต่างๆของกระต่าย [Engine by iGetWeb.com]]

การตัดเล็บกระต่าย

การตัดเล็บกระต่าย

การตัดเล็บกระต่าย
การตัดเล็บกระต่าย
กระต่ายมีนิ้วเท้า 5 นิ้วในเท้าหน้า และในเท้าหลังมีข้างละ 4 นิ้ว เล็บของกระต่ายจะยาวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเล็บคนเราเองยังต้องคอยหมั่นตัดแต่งเล็บของเราเลยใช่ไม๊คะ
ทำไมต้องตัดเล็บให้กระต่าย
เล็บของกระต่ายจะยาวขึ้นเรื่อยๆและกระต่ายก็ไม่ได้ไปขุดโพรงขุดดินเหมือนกระต่ายป่าตามธรรมชาติ ทำให้เล็บของเค๊ายาวขึ้น ๆ ๆจนกลายเป็นปัญหาได้ เช่น ยาวจนยืนไม่ถนัด เกี่ยวข่วนกระต่ายตัวอื่น หรือเจ้าของ ยาวจนเกี่ยวกับกรงจนเล็บฉีกเลือดพุ่ง - -“ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องคอยตัดเล็บให้กระต่ายนะคะ ควรตัดเล็บอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งค่ะ
แล้วจะใช้อะไรตัดเล็บ แล้วจะจับกระต่ายตัดเล็บยังไง
การตัดเล็บกระต่าย เราควรใช้กรรไกรเฉพาะ เป็นที่ใช้สำหรับตัดเล็บสำหรับหมาแมวนั่นแหละค่ะ
สำหรับในคนที่โชคดีมีกระต่ายน้อยเรียบร้อยน่ารัก การจับกระต่ายตัดเล็บคงไม่เป็นปัญหาใหญ่ แค่เอาน้องขึ้นโต๊ะค่อยๆจับเท้าน้อยๆมาตัดเล็บแปปๆก็เสร็จ แต่สำหรับน้องกระต่ายที่ไม่คุ้นและไม่ปลื้มกับการถูกตัดเล็บ เราต้องทำการล๊อคค่ะ อาจจะฟังดูรุนแรง แต่ปลอดภัยสำหรับน้องกระต่าย เพราะทำให้เค๊าอยู่นิ่งเราก็ตัดได้โดยไม่เกิดบาดแผล และก็ปลอดภัยต่อเจ้าของด้วย เกิดโดนน้องถีบเข้าละก็ ได้เลือดแน่ๆค่ะ ^ ^

วิธีการจับกระต่าย
เรานั่งตามถนัดนะคะ อุ้มน้องวางบนตัก จากนั้นก็หงายตัวเค๊า เอาหัวเค๊าไว้ระหว่างขาเราเอาขาเราบีบไว้เบาๆ ขาทั้ง 4 ข้างก็จะหงายขึ้น เราก็ค่อยๆตัดเล็บเค๊าได้เลยค่ะ

วิธีตัดเล็บ
จับนิ้วเท้าลูบขนออกให้เห็นเล็บชัดๆ ถ้าเป็นมือใหม่ แนะนำให้เล็งดีดีค่ะ กะตำแหน่งให้พ้นส่วนที่เป็นเนื้อสีชมพูๆออกมาหน่อยนะคะ อย่าตัดชิดส่วนสีชมพูมากเกิน มันจะติดเนื้อได้ค่ะ ให้ตัดเฉพาะส่วนที่เป็นเล็บเท่านั้น ส่วนที่เป็นเล็บตัดได้ไม่เจ็บ ส่วนที่เป็นสีชมพูๆตัดไม่ได้ค่ะเหมือนเล็บคนเราแหละค่ะ ตัดเล็บลึกเข้าเนื้อเจ็บแย่เลย

Credit : Picture from thaipetlover.com
แล้วถ้าพลาดตัดลึกเกินล่ะ
ใจเย็นๆ ตั้งสติดีดีค่ะ ไม่ต้องตกใจจนเกินไป ของมันพลาดกันได้(แต่อย่าบ่อย เดี๋ยวน้องกระต่ายจะโกรธเอา) เหมือนเราพลาดตัดเล็บตัวเองลึกเกินไป หากตัดพลาดซับเลือดแล้วปล่อยไว้เดี๋ยวเลือดก็หยุดเองค่ะ แต่ถ้าหากพลาดไปเยอะ เลือดออกเยอะมาก ทิ้งไว้ซักพักเลือดก็ยังไม่หยุดไหลก็เอาผงห้ามเลือดมาใส่ได้ค่ะ (ในเพดชอปมีขายค่ะ)
เราสามารถตัดเล็บกระต่ายได้ทั้งกระต่ายเด็กและกระต่ายโตนะคะ ความยากง่ายขึ้นอยู่กับความคุ้นเคยของทั้งคนและกระต่ายค่ะ หากเราจับเค๊าตัดเล็บบ่อยๆเค๊าก็จะคุ้นเคยมากขึ้นในเวลาที่ถูกจับตัดเล็บ และเราเองก็จะชำนาญขึ้น กะระยะการตัดได้ดีขึ้น ทำให้ไม่ต้องใช้เวลานานกระต่ายก็ไม่ต้องเครียดนานๆด้วยค่ะ ^ ^
ข้อมูล : จากประสบการณ์ตรงในการเลี้ยงดูจาก Country Rabbit Farm

มาฝึกน้องกระต่ายเข้าห้องน้ำกันน!!

การฝึกกระต่ายเข้าห้องน้ำ


1.) ก่อนรับเจ้าตัวเล็กเข้าบ้าน ซึ่งใช้กรงเดิมของพี่ๆเขา เราก็เลยจัดการล้างทุกซอกทุกมุม แล้วเอาไปตากแดด ตากแดดแล้วเอาเดทตอลผสมน้ำ สเปรย์ให้ทั่วกรง แล้วตากแดดตากลมอีกรอบ เพราะกลัวเขาเข้ากรงทันทีแล้วฉุนจมูก
2.) ตั้งห้องน้ำ 2 ห้องอยู่ตรงข้ามกัน ช่องตรงกลางระหว่างห้องน้ำ แขวนถ้วยอาหาร 2 ถ้วย ถ้วยหนึ่งใส่อาหาร อีกถ้วยใส่หญ้า เวลาเขาจะกินอาหารหรือหญ้าทุกครั้ง เขาต้องไปยืนบนห้องน้ำ และเกาะถ้วยอาหารค่ะ กินไปถ่ายไป เวลาจะกินหญ้า เขาก็จะกระโดดข้ามไปห้องน้ำอีกฝั่งหนึ่งเพื่อปีนเกาะถ้วยหญ้า แต่ตอนหลังฉลาดขึ้นแบบขี้เกียจๆค่ะ ไม่กระโดดแล้ว โยกตัวข้ามถ้วยอาหารไปเลย บนห้องน้ำฝั่งห้องอาหารก็แขวนขวดน้ำไว้ เวลาจะกินน้ำก็ต้องอยู่บนห้องน้ำ จึงเลือกใช้ห้องน้ำสี่เหลี่ยมซึ่งมี Space ให้กลับตัวได้
3.) สัปดาห์แรกของการฝึก เจ้าตัวเล็กฉี่ทั้งสองห้องน้ำ และฉี่นอกห้องน้ำ ซึ่งตอนแรกถาดรองด้านล่าง เราไม่ปูอะไรเลย เวลาเขาฉี่เราก็เอาทิชชู่เช็ดแล้วไปวางห้องน้ำ ปรากฎว่าแย่กว่าเดิม เพราะฉี่มันหนาแล้วก็ไหลไปตามทางลาดในถาด
4.) เปลี่ยนใหม่ คราวนี้เอาหนังสือพิมพ์หนาๆวางรองไว้ เพื่อซึมซับฉี่ที่อยู่นอกห้องน้ำ ไม่ได้ผลเพราะเขานึกว่ามันคืออีกห้องน้ำหนึ่ง
5.) เปลี่ยนใหม่ใช้หนังสือพิมพ์รองด้านล่างสุด แล้วใช่แผ่นรองซับของสัตว์ หรือจะของผู้ใหญ่ก็ได้ ปูถาดทับหนังสือพิมพ์ เพราะเก็บกลิ่นได้ดีกว่า แล้วตัดเป็นแผ่นขนาด 8 x 8 นิ้ววางเฉพาะตำแหน่งที่ไม่มีห้องน้ำ เวลาเขาฉี่ตรงไหน ก็หยิบออกเฉพาะชิ้นนั้น แล้วเช็ดร่องกรงด้วยน้ำยาเดทตอลผสมน้ำ คือล้วนๆมันแรงไปค่ะ เรายังฉุนจะตาย แล้วกระต่ายคงทนไม่ไหวค่ะ กลัวจมูกเขาตายด้านเรื่องกลิ่น


6.) ดีขึ้นค่ะ บางวันก็ไม่พบฉี่นอกห้องน้ำ บางวันก็ยังมีลอดออกมา แต่ใน 2 ห้องน้ำก็มีฉี่มากทีเดียว แสดงว่าเปอร์เซนต์ประสิทธิผลมากขึ้น ในระหว่างนี้ก็ยังไม่อนุญาตให้ออกมานอกกรงนะคะ ไม่เช่นนั้นไปได้กลิ่นพี่ๆแล้วจะสับสนค่ะ
7.) ระหว่างการฝึก ปล่อยให้ห้องน้ำที่มีฉี่มันเน่าไปก่อนค่ะ มีกลิ่นเหม็นก็อย่าเพิ่งเอามาล้าง หรือถ้ารู้สึกว่ากลิ่นมันเหม็นมาก ก็ล้างห้องเดียวพอ และล้างเฉพาะน้ำเปล่าค่ะ เพื่อให้กลิ่นมันยังอยู่ที่ห้องน้ำบ้าง แล้วเอาซากขี้เลื่อยที่เปียกฉี่มาโรยไว้ด้วยค่ะ
8.) ตำแหน่งเดียวที่ยังลอดออกมาคือหน้าห้องน้ำสามเหลี่ยมพอดีค่ะ ก็เลยคาดว่าคงหย่อนก้นล้นออกมาจากห้องน้ำสามเหลี่ยมค่ะ จะเปลี่ยนห้องน้ำใหม่เป็นสี่เหลี่ยม 2 ห้อง ก็ว่าทำให้กรงเหลือพื้นที่น้อยค่ะ เลยขยายห้องน้ำสามเหลี่ยมแบบง่ายๆค่ะ คือเอาถาดรองแก้วขนาดเล็กสุดที่เขาวางขายทั่วไปค่ะมาวางหน้าห้องน้ำค่ะสามเหลี่ยมค่ะ เพื่อจะได้ไม่ให้ฉี่ไหลไปรองที่ถาดด้านล่าง ตามเก็บยาก บนถาดรองแก้วก็ตัดแผ่นซึมซับวางใต้ตะแกรงค่ะ เพราะถาดมันตื้น ขืนโรยด้วยขี้เลื่อนคงบานเลอะเทอะไปหมด หรือไม่ก็โดนเจ้าตัวเล็กแทะกิน
9.) คาดว่าเมื่อทุกอย่างเข้าที่ไปประมาณ 7 วันค่อยเอาถาดรองแก้วออก และผ่านไปอีกระยะหนึ่งเมื่อเขาตัวโตขึ้นก็เอาห้องน้ำออกห้องหนึ่ง ตอนนี้เขายังเป็นละอ่อนน้อย ก็ยังไม่อึดอัด
10.) มีเทคนิคทดลองอีกอย่างค่ะ ตอนระหว่างที่เขากำลังฉี่ในห้องน้ำ เราจะเป่าปากเป็นเสียง วิธีนี้ลองดูเล่นๆค่ะ เหมือนตอนที่เราฝึกลูกๆเราให้ขับถ่ายเป็นเวลาตอนเขาอายุ 1 ขวบ เวลาเป่าปากตอนนั่งกระโถน เด็กๆจะรู้เลยว่าเป็นเวลาฉี่กับอึแล้ว  แต่เจ้าตัวนี้ยังไม่เห็นผลนะคะ เห็นผลที่ชัดคือเวลาเขาได้ยินเสียงเป่าปาก เขาจะมายืนรอหน้ากรงค่ะ รู้ว่าแม่มาหาแล้ว หรือตอนนี้ได้รับรางวัลให้ไปวิ่งเล่นนอกกรงแล้ว เวลาเป่าปากก็จะวิ่งมาหา เพราะเป็นเสียงคุ้นเคยมั้งคะ
11.) ตอนนี้ผ่านมา 3 วันแล้ว เจ้าตัวเล็กฉี่แต่ในห้องน้ำ เราก็เลยให้รางวัลด้วยการให้เขาไปวิ่งเล่นในสนามหญ้า โอ้โห ออกไปเจอสนามหญ้าแล้วเป็นป็อบคอร์นทันที 
และที่ยังได้ผลนะคะ คือได้ยินเสียงเป่าปากแล้วกระโดดมาหา แล้วก็กระโดดไปหินก้อนโน้นที ก้อนนี้ที ลั้ลลามาก
ระหว่างการฝึกเข้าห้องน้ำ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกกรง (อันนี้คุณพ่อๆแม่ๆต้องใจเด็ด) เพื่อจำกัดอาณาเขต
                    
Credit : รูปและข้อมูล ขอขอบคุณคุณ Cleo สมาชิคเวบ Rabbit Café ที่อนุญาตให้นำข้อมูลมาเผยแพร่นะคะ
[ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บ : http://www.countryrabbitfarm.com/articles/41950767/การฝึกกระต่ายเข้าห้องน้ำ.html]
[ขอบคุณรูปภาพ : www.countryrabbitfarm.com และ www.jprabbitry.com]

ทำไมกระต่ายดุ??


ทำไมน้องกระต่ายดุ 


ปัญหากระต่ายดุเป็นสิ่งที่เราไม่อยากเจอจริงๆ ในเรื่องนี้ขอเล่าจากประสบการณ์การเลี้ยงดูของเรานะคะ ซึ่งเทคนิคและวิธีการอาจจะปรับเปลี่ยนได้ แล้วแต่การเลี้ยงดูของแต่ละบ้านค่ะ
กระต่ายดุเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ อาจจะเป็นเพราะนิสัยส่วนตัว ดุจริงดุจัง ดุกันทั้งตระกูลก็มีค่ะ อย่างที่ฟาร์มจะมีอยู่ครอบครัวนึงส่งต่อความดุกันจากรุ่นสู่รุ่นเลยค่ะ ^ ^ คนเลี้ยงได้แผลกันครบทุกคนแล้ว
เกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น หวาดกลัว ไม่คุ้นเคย หิว ติดสัด หวงที่ แค้นฝังหุ่น หรือ ต้องการอะไรบางอย่างจากเรา อันนี้เราต้องลองสังเกตดูนะคะว่าเขาจะมีอาการดุช่วงไหน ตอนไหนบ้าง จะได้รู้และแก้ปัญหาถูกค่ะ

เทคนิคค่อยๆทำความสนิทสนมกัน
ทางที่ดีที่สุดที่จะลดปัญหากระต่ายดุ คือควรทำความสนิทสนมกันนะคะ วิธีทำให้กระต่ายคุ้นเคยกับเรา แบบที่(น่าจะ)ง่ายที่สุด ก็คือตอนให้อาหารค่ะ เราควรให้อาหารเป็นเวลา แล้วเวลาที่เราให้เนี่ย ค่อยๆให้ ให้เขาเข้ามาใกล้ๆเรา ทำไปเรื่อยๆจนเขาไม่กลัวไม่เกร็ง เมื่อเขายอมเข้าใกล้เราแล้วก็ถือว่าผ่านเสต็ปแรกค่ะ จากนั้นเลื่อนขั้นเป็นส่งให้กิน ป้อนอาหารกันแบบใกล้ชิด ถ้ายังได้ยังพอไหวอยู่ ก็เลื่อนขั้นเป็นเตะเนื้อต้องตัวค่ะ เตะนิดจับหน่อย ค่อยๆลูบไล้กันไป จนเขารู้ว่าเราเป็นมิตรไม่มีภัยต่อเขาค่ะ เราก็จะสามารถจับเขาได้ค่ะ
เทคนิคนี้ต้องค่อยๆทำ ต้องใช้ความอดทนและความถี่ และก็ไม่ได้การันตีว่าจะประสบความสำเร็จไปซะทุกตัวนะคะ ถ้าเจอแบบที่ดุซะเหลือเกิน ก็คงต้องทำใจล่ะค่ะ

เทคนิคดุปราบด้วยดุ ฟังดูใจร้าย แต่ก็ได้ผลนะจ๊ะ
หากกระต่ายของคุณดุจนเกินเยียวยา โอ๋ก็แล้ว ปลอบก็แล้ว ก็ยังไม่ยอมญาติดีด้วยซะที จนถึงขั้นเป็นกระต่ายอันตราย ดุจนน่ากลัว ก็อาจจะต้องใช้เทคนิคโหดกันบ้างนิดๆ เทคนิคนี้ไม่เหมาะกับคนอ่อนไหว ฟังดูโหดร้าย แต่หลายๆคนทำแล้วได้ผลนะคะ นั่นก็คือเราต้องดุหรือทำเสียงเตือนเวลากระต่ายดุใส่เราหรือจะทำร้ายเรา เหมือนเวลาที่เราฝึกหมาน่ะค่ะ เช่นเวลากระต่ายพุ่งเข้ามาจะทำร้ายเรา ให้เราดุใส่เลย แต่ถ้ายังพุ่งใส่อีกอาจจะต้องตีค่ะ ไม่ใช่ว่าตีให้ตายหรือพิการไปนะคะ แต่ตีให้เขารู้ว่าทำแบบนี้ไม่ได้ ห้ามทำ ทำแล้วจะโดนตีอีก วิธีนี้จะทำให้กระต่ายจำค่ะ แล้วเขาก็จะไม่กล้าทำร้ายเรา วิธีนี้อาจจะช่วยลดปัญหากระต่ายทำร้ายเราได้ แต่...เขาจะรักเราไม๊นี่อีกเรื่องนึงนะคะ แหะๆ
ปล.กระต่ายก็จำแม่นนะเออ...ทำไรไว้จำได้หมดนะจ๊ะ(เท่าที่เจอมานะ)
                     
ข้อมูล : จากประสบการณ์ตรงในการเลี้ยงดูจาก Country Rabbit Farm
[ขอขอบคุณเว็บ : http://www.countryrabbitfarm.com/articles/41960671/ปัญหากระต่ายดุ-ทำไงดี.html]

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559

รวบรวมคำศัพท์ของกระต่าย

รวบรวมคำศัพท์ของกระต่าย


เพราะก่อนหน้านี้เราเองก็แสนจะงงกับคำศัพท์หลายๆคำในโลกของกระต่าย ที่ไม่คุ้นหู จึงอยากรวบรวมเหล่าคำศัพท์และคำอธิบายในแบบของเราเองมาแบ่งปันกันนะคะ ^ ^ 

เริ่มจากที่เจอบ่อยๆละกันนะ
เกรดเพท (Pet grade , Pet quality) = เพท แปลว่าสัตว์เลี้ยง เกรดเพทหมายถึงกระต่ายที่เหมาะจะเอาไปเลี้ยงน่ารักๆ สวยงามค่ะ
เกรดโชว์ (Show grade, Show quality) = หมายถึงกระต่ายที่มีลักษณะที่ดี ถูกต้องตามมาตรฐานสายพันธุ์ เอาไปโชว์ หรือรวมถึงเอาไปประกวดได้
เกรดบรูด (Brood quality) = บางคนก็เรียก เกรดบรีด แต่ฝรั่งเรียกบรูดนะคะ หมายถึง กระต่ายที่มีลักษณะที่ดี มีโครงสร้างที่เหมาะสมจะนำมาเป็นแม่พันธุ์ค่ะ
Buck = หมายถึง กระต่ายเพศผู้
Doe = กระต่ายเพศเมีย
Junior = หมายถึงกระต่ายเด็กอายุไม่เกิน 6 เดือนค่ะ
Senior = หมายถึงกระต่ายที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปค่ะ
Pedigree ใบเพ็ด = หมายถึงใบประวัติของกระต่าย ดีกรีของกระต่าย จะแสดงให้เห็นถึงประวัติของต้นตระกูลกระต่ายตัวนั้นๆถึง 3 รุ่นเลยค่ะ
พูดถึงใบเพ็ดเอาคำศัพท์จากในใบเพ็ดมาพูดบ้างบางส่วนก็แล้วกันนะคะ
Variety = สีของกระต่าย
Ear = ย่อมาจาก Ear Number ก็ชื่อเบอร์หูนั่นแหละค่ะ
เบอร์หู = คือชื่อประจำตัวกระต่ายตัวนั้นๆค่ะ อาจจะเป็นชื่อย่อ หรือรหัสอะไรก็แล้วแต่เจ้าของจะใช้ค่ะ กระต่ายที่จะเอาลงประกวดในมาตรฐาน ARBA ต้องมีเบอร์หูและสักหูก่อนส่งประกวดค่ะ
สักหู , Tattoo = ความหมายตรงตัวนะคะ สักชื่อไปที่หูค่ะ โดยจะสักเบอร์หูไว้ที่หูข้างซ้ายค่ะ
Reg = ย่อมาจาก Register Number ก็คือรหัสการขึ้นทะเบียนกระต่ายค่ะ
Register, รีจิสกระต่าย = คือการขึ้นทะเบียนรับรองกระต่ายกับทาง ARBA ค่ะ กระต่ายที่จะขึ้นทะเบียนได้ต้องมีลักษณะตรงตามมาตรฐานสายพันธุ์ของ ARBA นะคะ
DOB = ย่อมาจาก Day of Birth ก็คือวันเกิดของกระต่ายนั่นเองค่ะ
Sire =  ก็คือพ่อของกระต่ายค่ะ
Dam = ก็คือแม่ของกระต่ายค่ะ
คำศัพท์ในใบเพ็ด ก็จะมีให้เห็นในการประกวดเช่นกัน งั้นมายกตัวอย่างคำศัพท์ในการประกวดกระต่ายต่อเลยแล้วกันนะคะ
ARBA คืออะไร ARBA ย่อมาจาก  American Rabbit Breeder Association เป็นสมาคมผู้พัฒนาสายพันธุ์กระต่ายของอเมริกา ซึ่งมีประวัติยาวนานมากๆค่ะ
Show A B  = ต่างๆที่เห็นในงานประกวดกระต่ายที่สมาคม Siam Rabbit Club จัดขึ้น ก็หมายถึงการประกวดที่ตัดสินโดยกรรมการคนละท่านกันค่ะ ซึ่งก็จะแล้วแต่การจัดการประกวดนะคะ บางงาน บางที่ก็อาจจะไม่มีการแบ่งเป็น Show A B ก็ได้ค่ะ
Leg = ขา? ไม่ใช่ค่ะ Leg ก็เหมือนกับแต้มการชนะการประกวด คือการที่กระต่ายชนะการประกวดในแต่ละครั้ง ก็จะได้รับ 1 Leg หากชนะในหลายๆการประกวดก็จะได้รับ Leg เยอะขึ้นไปด้วยค่ะ เหมือนเป็นการสะสมผลการชนะการประกวดค่ะ  แต่ไม่ใช่ว่าประกวดชนะแล้วจะได้ Leg ไปเสียทุกรอบนะคะ เพราะยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เพิ่มเติมอีกค่ะ

นึกไม่ค่อยออกแล้วแฮะ ใครมีคำศัพท์คำไหนที่ไม่แน่ใจสงสัยลองถามกันมานะคะ ถ้ารู้จะอธิบายให้ฟังค่ะ ถ้าไม่รู้....จะลองถามจากคนที่น่าจะรู้กว่า และ รู้แบบถูกต้องมาตอบให้นะคะ


[ขอบคุณข้อมูล: http://www.countryrabbitfarm.com/articles/42056043]
[ขอบคุณข้อมูล: http://mcot-web.mcot.net/lively/content.php?id=55643940be047037fc8b462b ]

ทำไงดีน้องกระต่ายขนร่วง!!

เมื่อน้องกระต่ายขนร่วง



     หลายๆคนคงจะเคยเจอปัญหาเรื่องน้องกระต่ายขนร่วงกันมาแล้วนะคะ การที่กระต่ายขนร่วงนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุมากๆค่ะ เราต้องดูว่าที่กระต่ายของเราขนร่วงเพราะสาเหตุใด จะได้ทำการรักษากันได้ถูกนะคะ เราได้ลองรวบรวมสาเหตุหลักๆที่ทำให้กระต่ายขนร่วงมีดังนี้ค่ะ

ผลัดขน  กระต่ายจะผลัดขนประมาณปีละครั้งนะคะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอาหารและสภาพอากาศด้วยค่ะถ้าอากาศร้อนหรืออาหารไม่มีคุณภาพเพียงพอก็จะทำให้เกิดการผลัดขนได้บ่อยขึ้นค่ะ กระต่ายที่ผลัดขน เมื่อเวลาเราลูบที่ตัวเค้าก็จะมีขนหลุดติดมือเราออกมาเยอะมาก อาการขนร่วงจากการผลัดขน เดี๋ยวก็หายไปเองค่ะ ไม่ต้องกังวลไป วิธีดูแล เราควรช่วยโดยการแปรงขนให้ขนที่ตายแล้วหลุดติดแปรงออกมา เวลาเค้าทำความสะอาดตัวเองจะได้ไม่ต้องเลียและกลืนขนเยอะเกินไป จนไปปั้นเป็นแฮร์บอลอยู่ในท้องนะคะ และการแปรงขนก็ทำให้ขนไม่ปลิวละล่องอยู่ในอากาศด้วยนะคะ เดี๋ยวจะจามกันทั้งบ้าน

เครียด เวลาที่กระต่ายของเราเครียด ไม่ว่าจะเพราะเปลี่ยนที่อยู่ ไม่ได้ผสมพันธ์ หรือสาเหตุอื่นๆ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการขนร่วงได้เช่นกันค่ะ เราก็ต้องดูตามสาเหตุนะคะ ให้เค๊าปรับตัว ให้เค๊าหายเครียด บำรุงด้วยอาหารดีดี เดี๋ยวขนก็กลับมาค่ะ

ท้อง กระต่ายที่ขนหายขนหลุดเป็นหย่อมๆอาจจะเป็นเพราะแม่กระต่ายท้องก็เป็นได้นะคะ เพราะแม่กระต่ายเมื่อรู้ตัวว่าท้องใกล้จะคลอกก็จะมีการเตรียมตัวสร้างรังอันอบอุ่นให้ลูกโดยการ กัดขนในบริเวณที่เค้ากัดถึงค่ะ  ก็จะเห็นว่าขนตามขา ตามหน้าอก จะหายไปจนเห็นผิวหนังชัดเจนเลย อาการนี้เป็นเรื่องปรกติค่ะ เดี๋ยวขนก็ยาวเหมือนเดิมเองค่ะ แล้วพอท้องครั้งหน้า คุณแม่คนเก่งก็ทำการแทะขนใหม่อยู่ดีค่ะ - -
กัดกัน มีแผล เช่นเวลากระต่ายทะเลาะกัน หรือเวลาที่กระต่ายผสมพันธ์กัน ในบางคู่ก็จะกัดกันด้วยค่ะ ขนที่ร่วงจากอาการนี้จะเห็นขนหลุดเป็นกระจุกๆเลย แบบนี้เราก็รักษาแผลให้สะอาดค่ะ เมื่อแผลหายขนก็จะกลับมาเองค่ะ

* ไร ขี้เรื้อน เชื้อรา
ไรที่ขน อาการขนร่วงเป็นหย่อมๆ ที่ขนมีเศษขาวๆเหมือนรังแค และผิวหนังจะมีสีแดง ให้ลองหวีขนเค้าดูนะคะ ถ้าเห็นเหมือนรังแค แต่ดันเดินได้ นั่นอาจจะเป็นตัวไรค่ะ ไรขนจะทำให้กระต่ายของเราหมดสวย สภาพกระเซอะกระเซิง

ไรที่หู ขนตามขอบหูแหว่งๆ มีก้อนเหลืองๆแข็งๆในหู และ ที่สังเกตได้ชัดคือ หูมีสะเก็ดแข็งๆ หนาๆ กระต่ายจะมีอาการคันมาก ถ้าเป็นหนักๆหูจะเริ่มแหว่งไปเรื่อยๆและลามไปส่วนอื่นๆของร่างกายได้ และถ้าหากตัวไรเข้าไปยังหูชั้นในของกระต่าย ก็อาจจะทำให้เกิดโรคคอเอียงได้อีกด้วย ซึ่งทำให้กระต่ายตายได้ค่ะ โรคไรติดต่อกันได้ง่าย จากสิ่งแวดล้อม จากกระต่ายหรือสัตว์เลี้ยงต่างๆ
การรักษา ทำได้โดยการฉีดยา และ หยดยาค่ะ การหยดยาสามารถทำได้เองแต่ในครั้งแรกควรจะปรึกษาหมอก่อนนะคะว่ากระต่ายของเราควรใช้ปริมาณการหยดแค่ไหน โดยจะใช้เป็นการหยดยากำจัดปรสิต หยดได้ทุกๆ เดือนค่ะ หรือ พาไปให้คุณหมอฉีดยาก็ได้ค่ะ โดยจะต้องทำการฉีดยาติดต่อกัน 2 สัปดาห์ต่อครั้ง เพียงไม่กี่ครั้ง อาการก็จะดีขึ้นและหายได้ค่ะ

เชื้อรา ขนร่วง ผิวหนังเป็นขุยๆ  มักจะเป็นบริเวณจมูก ใบหู นิ้วเท้า มักพบร่วมกับการเป็นไร  โรคเชื้อราเป็นโรคที่ติดต่อจากกระต่ายสู่กระต่าย สัตว์เลื้ยงอื่นๆ และติดต่อสู่คนได้ด้วยนะคะ ฉะนั้นต้องรีบรักษาด่วนค่ะ หมออาจจะให้ยากิน หรือยาทาที่เป็นครีมมาทาค่ะ ยาครีมเราสามารถหาซื้อมาทาให้กระต่ายเองได้ค่ะ เช่น ยา Ketoconazole โดยหลังจากทาเราอาจจะจับเขาให้อยู่นิ่งๆซักพักเพื่อให้ยาซึมเข้าสู่ผิวหนัง แล้วค่อยปล่อยค่ะ เพราะถ้าทาแล้วปล่อยเลย เขาจะทำการกรูมมิ่งตัวเองทันที ก็อาจจะเช็ดยาออกหมดเสียก่อนค่ะ



ไร ขี้เรื้อน และ เชื้อรา สามารถกลับมาเป็นได้อีก ดังนั้นผู้เลี้ยงควรดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมให้ดีค่ะ ให้มีความสะอาด อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำๆค่ะ
           
บทความนี้เป็นเพียงการข้อมูลเบื้องต้นนะคะ ในบางกรณีเราสามารถดูแลเองได้
แต่หากพบว่ากระต่ายมีความผิดปรกติที่เราดูแลเองไม่ได้ หรือแม่แน่ใจในปัญหา ก็ควรพาไปพบแพทย์ดีที่สุดค่ะ
          
[ข้อมูล : จากแหล่งความรู้ที่ต่างๆ และจากประสบการณ์ตรงในการเลี้ยงดูจาก Country Rabbit Farm]
[ขอบคุณรูปจาก : http://www.pets-mania.com] 
[ขอบคุณรูปจาก : https://petlovely.wordpress.com]

[GAMEPHONE][Review] Mandora

รีวิวเกมส์ Mandora





เมื่อเข้าเกมจะมีการสอนเล่นเกมส์



จะมีคะแนน


BOOKSTORE


โหมดแข่งกันกับเพื่อนใน Facebook


เกมส์กราฟิกสวย เล่นง่าย มีรายโหมด มีในสะสมในการ์ตูน

คะแนน : 10/10

[เกมส์นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเจ้าของบล๊อก]
[ขอบคุณเกมส์ : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.rayark.uproot&hl=th]